จะจ้างบริษัททำ SEO ทั้งที ต้องรู้รอบด้าน

จะจ้างบริษัททำ SEO ทั้งที ต้องรู้รอบด้าน

การทำเว็บไซต์ออนไลน์ในปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหากมีการพัฒนาเว็บไซต์เป็นระบบ SEO หรือ search engine optimization ตามที่ Google กำหนดแล้ว ก็จะยิ่งทำให้มีอันดับสูงขึ้นในหน้าต่างการสืบค้น จึงเพิ่มอำนาจการแข่งขันเหนือเว็บไซต์อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

การเลือกบริษัททำ SEO ที่มีคุณภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของเว็บไซต์ควรมีความรู้พื้นฐานรอบด้านและมีความระมัดระวังในการเลือกบริษัทดังต่อไปนี้

1. ต้องรู้ธรรมชาติของผลลัพธ์ SEO

การทำ SEO เป็นการแก้ไขโครงสร้าง เชื่อมลิงก์และสะสมข้อมูลที่อัปเดตใหม่และถูกต้องตามเกณฑ์ของ Google จึงจะทำให้ระบบ algorithm วิเคราะห์ได้ผลที่ดีขึ้น จึงต้องใช้ระยะเวลาในการทำนานมากกว่า 1-2 เดือน และไม่สามารถที่จะล็อกอันดับของเว็บไซต์ได้ หากบริษัทรับจ้างทำ SEO บริษัทใดอ้างว่าสามารถทำให้อันดับสูงขึ้นได้ในเวลารวดเร็ว 1-2 สัปดาห์ และล็อกให้อยู่ในอันดับที่หนึ่งได้ตลอด ย่อมเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน

2. ลำดับในการพัฒนาเว็บไซต์ SEO

การพัฒนาเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ต้องเริ่มมาจากส่วนพื้นฐาน คือ การปรับที่โครงสร้างของเว็บไซต์ ที่เรียกว่า On-Page SEO ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะมีทีมงานที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหานี้ และยังต้องมีการตรวจสอบความผิดพลาดในการเชื่อมโยงลิงก์ในอดีต ก่อนการเพิ่มข้อมูลใหม่ เช่น การผลิตสื่อหรือบทความ โดยเลือก keyword ที่เหมาะสม หากบริษัทมีขั้นตอนในการทำอย่างมืออาชีพ ก็มั่นใจได้ว่าอันดับเว็บไซต์ของคุณจะเพิ่มสูงขึ้น และสร้างยอดขายสินค้าที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน

3. ค่าใช้จ่าย

บริษัทรับทำ SEO จะมีการคิดค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันตามผลลัพธ์ที่การันตีและประสบการณ์ความชำนาญของทีมงาน ซึ่งธุรกิจแต่ละกลุ่มจะมีอัตราการแข่งขันที่มากน้อยต่างกัน เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือการโรงแรม การซื้อขายสินค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สินค้าแฟชั่น ฯลฯ หากมีอัตราการแข่งขันสูงก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าและใช้ระยะเวลานานกว่าในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ SEO หากต้องการได้ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมที่สุด ควรจะสอบถามราคาเพื่อเปรียบเทียบระหว่างหลายบริษัท และพิจารณาบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด

4. สัญญาทางกฎหมาย

การทำ SEO โดยทั่วไปใช้ระยะเวลาในการเห็นผล (ทั้งด้านจำนวนลูกค้าและรายได้ที่เพิ่มขึ้น) ชัดเจนที่ระยะ 3-6 เดือนขึ้นไป และหากต้องการให้อันดับอยู่อย่างต่อเนื่องก็ต้องมีการทำอย่างสม่ำเสมอ จึงต้องมีการทำสัญญาที่ให้ผลทางกฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ในสัญญาควรจะมีการระบุชัดเจนว่า หากไม่สามารถทำได้ตามข้อตกลงร่วมกัน จะมีค่าชดเชยอย่างไรให้แก่เจ้าของเว็บไซต์บ้าง เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบในภายหลังด้วย

การเลือกบริษัททำ SEO ที่มีคุณภาพ

จะเห็นได้ว่า การเลือกบริษัททำ SEO จะต้องมีความรู้อย่างรอบด้าน ทั้งในการทำ SEO และในด้านกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ และทำให้ได้รับประโยชน์จากการทำ SEO อย่างครบถ้วนในเวลาที่คาดหวัง จึงจะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป